Food Science
สวัสดีครับวันนี้ครูป๊อบจะพาไปสัมภาษณ์พี่ที่เรียนคณะวิทยาศาสตร์-อาหาร เกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบ ความสุขในการเรียน และการทำงาน โดยจะแบ่งออกเป็น 3ช่วงให้อ่านง่ายๆ…มาเริ่มกันเลย!!! ช่วง ม.ปลาย-ถึงเตรียมตัวสอบเข้าระดับมหาลัย พี่แบงค์เรียนแผนการเรียนสายวิทย์-คณิต ซึ่งมีเป้าหมายที่อยากเรียนเป็นนักโภชนาการอาหาร มีเป้าหมายสูงสุดคือเปิดSMEsเล็กๆทำอุตหาสกรรมอาหารบวกกับช่วงนั้นทางรัฐบาลมีนโยบายให้ประเทศไทยเป็นครัวโลกจึงเลือกเรียนคณะนี่ พอรู้ว่าอยากเป็นแบบนี้พี่แบงค์ก็เริ่มเตรียมตัว เริ่มจากค้นหาวิชาที่ใช้สอบโดยหลักๆก็จะต้องเริ่มเรียนพิเศษ โดยเริ่มหาโรงเรียนกวดวิชาเริ่มจากวิชาที่เราเรียนอ่อนสุดก็จะมีฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ(สรุปอ่อนทุกวิชา – -“) โดยวิชาหลักที่ต้องเรียนพิเศษคือเลข เคมี ชีวะ ภาษาอังกฤษ(ครูป๊อบก็ถามว่าทำไมไม่เรียนพิเศษฟิสิกส์ด้วยหล่ะ พี่แบงค์บอกว่าเอาไปใช้จริงในมหาลัยน้อยมากแค่30% แต่มันใช้สอบนะ) ซึ่งการเตรียมตัวเรียนพิเศษของแต่ละวิชาเราก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเวลาเรียนในมหาลัยจริงๆมันจะต่างกับที่เรียนมากน้อยอย่างไร ช่วงสอบติด และเข้าเรียนในมหาลัย …ความรู้สึกแลกพี่แบงค์บอกว่า โค-ตะ-ระ ดีใจมากกกกกๆ…แต่พอเรียนไปแล้วซักเทอมสองเทอมความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนรู้สึกไม่ค่อยชอบ แต่ที่สงสัยคือจากสิ่งที่เรียนพิเศษมาวิชาภาษาอังกฤษกลับเป็นวิชาหลักที่ได้ใช้ในการเรียนเพราะตำราเกือบทุกเล่มเป็นภาษาอังกฤษหมดและวิชาอะไรบ้างที่ได้ใช้ลองลงมา หรือใช้น้อยสุดครูป๊อบได้ถามเป็นสัดส่วนง่ายๆดังนี้ ฟิสิกส์30% ชีวะ60% เลข70% ภาษาอังกฤษ80% เคมี 100% และครูป๊อบได้ถามต่อว่ามีความสุขหรือทุกข์มากกว่ากันกับสิ่งที่เลือกเรียนคณะนี้ คำตอบออกมาว่าทุกข์สาเหตุจากตอนเลือกเรียนไม่ได้คิดเกี่ยวกับตัวเนื้อหาที่เรียนลึกมาก (พี่แบงค์บอกเรียนครบทุกวิชาเหมือนหมอเลย ฮ้าๆ) จากคิดแค่ต้องเรียนคณะนี้เพื่อไปเป็นนักโภชนาการอาหารและไปเปิดSMEsเล็กๆต่อ แต่พี่แบงค์ก็เรียนจบมาได้แบบเข็นครกขึ้นภูเขาก่อนจบมีการสอบใบเกี่ยวกับมาตรานISOเพื่อเป็นเครดิตในการสมัครงานได้ และตั้งเป้าของเงินเดือนที่ 14,000บาท (ตอนนู้นเมื่อ5ปี ก่อนนะครับแต่ตอนนี้มีนโยบายเงินเดือนขั้นต่ำป.ตรี ต้อง15,000บาท) ช่วงระหว่างทำงาน …